กระเทาะเปลือก “ เยอรมันเช็พเพอด ” ตอนที่ 1
บทนำ……
หลายปีมาแล้ว ที่คลุกคลีอยู่กับสุนัข “ เยอรมันเช็พเพอด ” ( หรือที่คนทั่วๆ ไปเรียกกันติดปากว่า “ อัลเซเชียน ” ) โดยเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดติดตัวเกือบตลอดเวลา ประเภทไปไหนเอาไปด้วย ทั้งคนและสุนัขจึงได้ผ่านการพบปะกับผู้คนมาแล้วมากมายหลายประเภท ที่สนใจก็จะเข้ามาถามว่า พันธุ์อะไร ? ดุไหม ? กัดไหม ? ที่ทำท่าเหมือนจะรู้จักสุนัขพันธุ์นี้อยู่บ้าง ก็จะชี้ชวนกันดูว่า “ นั่นไง , หมาตำรวจ , อย่าเข้าไปใกล้เชียวเดี๋ยวมันขย้ำคอเอา ” น้อยคนนักที่จะเข้ามาทักทาย พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของสุนัขตามปกติ อย่างเช่น “ ตัวโตดีนะ , ชื่ออะไรเนี่ย ” หรือว่า “ ท่าทางเรียบร้อยดีนะ หน้าตาเป็นเยอรมันดีจริงๆ ” หรือ “ เล่นกับเขาได้ไหม? ” สรุปว่า คนที่รู้จักเยอรมันเช็พเพอดจริงๆ มีอยู่ไม่มากนักในบ้านเรา บางคนเห็นปุ๊บก็รู้ว่า “ นี่ละ เยอรมันเช็พเพอด” แต่เวลาจูงสุนัขเดินผ่านไปใกล้ ก็รีบข้ามถนนไปเดินฝั่งตรงข้ามแสดงให้เห็นว่า ความรู้สึกแรกของคนทั่วไปที่มีต่อสุนัขพันธุ์นี้ คือ เป็นสุนัขที่ดุ , น่ากลัว , ก้าวร้าว , ชอบกัด …….ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นความรู้สึกในทางลบ ที่น่าแปลกมากๆ คือ ผู้เขียนเคยพบเห็นผู้ที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ บางท่านไม่กล้าเข้าใกล้สุนัขของผู้อื่น ( หรือสุนัขของตัวเองบางตัว ) แม้เจ้าของจะอยู่ด้วย ซึ่งค่อนข้างผิดปกติสำหรับผู้เลี้ยง ที่น่าจะเป็นผู้ที่รู้จักสุนัขพันธุ์นี้ดีกว่าคนอื่นๆ
ผู้เขียนยังเคยได้ยินเรื่องราวที่บอกเล่าต่อๆ กันมา ถึงเยอรมันเช็พเพอดในบ้านเราตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นสุนัขนำเข้าจากเยอรมันที่สวยมาก แต่มีการแสดงออกที่ก้าวร้าว, กัดผู้คนไม่เลือก แม้แต่คนเลี้ยงเอง จนต้องเลี้ยงขังไว้ในกรงตลอดเวลาเหมือนเลี้ยงเสือ จนในที่สุด ต้องถูกกำจัดไปอย่างน่าสงสาร โดยไม่มีใครสนใจที่จะศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของสุนัขตัวนี้ ถึงสาเหตุที่ทำให้มันมีการแสดงออกแบบนั้น เพื่อเก็บไว้เป็นกรณีศึกษา หรืออาจจะหาหนทางช่วยเหลือแก้ไขพฤติกรรมของมันได้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้รุ่นต่อๆ มา ให้รู้ถึงสาเหตุของปัญหา และหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบเดียวกันขึ้นอีก
ดังนั้นหลังจากที่ได้พยายามค้นคว้า หาข้อมูลเกี่ยวกับเยอรมันเช็พเพอดจากหลายแหล่งมานานนับปีทั้งจากหนังสือภาษาไทย และอังกฤษเท่าที่จะหาได้ทั้งในเมืองไทย และสั่งซื้อเข้ามาจากต่างประเทศจากวีดีโอ ซีดี และการได้พูดคุยกับผู้มีประสบการณ์มากมายหลายท่าน รวมไปถึงจากประสบการณ์ของตัวเอง ในการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ อย่างคลุกคลีใกล้ชิดจริงๆ มานานพอสมควรด้วยความรักและผูกพันกับเยอรมันเช็พเพอด ( เหมือนเคยเกิดร่วมสายพันธุ์เดียวกันมาแต่ชาติปางก่อน ) จึงรู้สึกว่าเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องทำให้สุนัขพันธุ์นี้ เป็นที่รู้จักและเข้าใจอย่างถูกต้องในสายตาผู้คนทั่วไป ( รวมไปถึงผู้เลี้ยงและบรีดเดอร์ ) โดยการนำเสนอเรื่องราวและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด ให้แพร่หลายเป็นที่ประจักษ์กันทั่วไปว่า
“ เยอรมันเช็พเพอดของแท้ ” นั้นมีจริง ไม่ใช่เพียงเรื่องเล่าในตำนาน ซึ่งนับวัน…….ดูเหมือนว่า เกียรติภูมิแห่งสายพันธุ์เยอรมันเช็พเพอดอันเคยเป็นที่นิยมยกย่องและมีชื่อเสียงโด่งดัง ว่าเป็น “ สุดยอดแห่งสัตว์มีเขี้ยว ” ที่มนุษย์สามารถพึ่งพาอาศัย และใช้งานได้อเนกประสงค์ทรงประสิทธิภาพที่สุดนั้น จะกลายเป็นเพียงเรื่องที่เล่าขานต่อๆ กันมาแต่โบราณเท่านั้น
ประวัติความเป็นมาหรือกำเนิดแห่งสายพันธุ์เยอรมันเช็พเพอดนั้น จะไม่ขอกล่าวถึงในตอนนี้ เนื่องจากภารกิจที่สำคัญอันเป็นวัตถุประสงค์หลักของข้อเขียนนี้ คือ การนำเสนอความเป็น “ เยอรมันเช็พเพอดที่แท้จริง ” ให้ท่านผู้อ่านได้ทำความรู้จักกันในทุกแง่มุมเท่าที่จะสามารถทำได้
สุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด คืออะไร
“ เยอรมันเช็พเพอด ” ถูกพัฒนาพันธุ์นี้ขึ้นมา โดยจุดประสงค์ดั้งเดิมคือเพื่อใช้เป็น “ สุนัขต้อนแกะ ” ซึ่งสุนัขที่จะนำมาใช้งานแบบนี้ได้ ต้องมีลักษณะที่ดีเด่นครบถ้วนจริงๆ จึงจะทำงานนี้ได้ดี กล่าวคือต้องมีลักษณะทางร่างกายที่แข็งแรง, มีความอดทนคล่องแคล่ว, ปราดเปรียว ขณะเดียวกันก็ต้องมีขนาดโตพอที่จะทำให้ฝูงแกะเกรงกลัว และจิตใจจะต้องมั่นคง กล้าหาญในการต่อสู้เพื่อป้องกันฝูงแกะ, มีความตั้งใจที่จะทำงาน, ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ต้องมีวินัยเชื่อฟังเจ้าของ, ไม่ก้าวร้าวดุร้ายไม่ก้าวร้าวหรือคุกคามทำร้ายสัตว์อื่นๆ ในฝูง
“ เยอรมันเช็พเพอด ” ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์อย่างพิถีพิถันเพื่อให้มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นอย่างครบถ้วนมาหลายชั่วอายุและประสบความสำเร็จตามจุดประสงค์ได้รับการยกย่องเป็นราชาแห่งท้องทุ่งปศุสัตว์ของเยอรมัน มานานนับร้อยปี คุณสมบัติพิเศษหลากหลายประการของ “เยอรมันเช็พเพอด ” ทำให้มันถูกนำไปฝึกใช้งานอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น สุนัขสงคราม, สุนัขตำรวจ, นำทางคนตาบอด ฯลฯ ซึ่งสามารถทำได้อย่างดีในงานทุกประเภท “ เยอรมันเช็พเพอด ” ในสมัยนั้นได้พิสูจน์ให้โลกเห็นมาแล้วว่า “ สุดยอดของสุนัขคือเยอรมันเช็พเพอด ”
การพัฒนาสายพันธุ์
ในกระบวนการพัฒนาสายพันธุ์จำต้องมีการคัดเลือกสุนัขที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและดีที่สุดเท่านั้นสำหรับนำมาใช้เป็นพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ เพื่อให้ได้ลูกสุนัขที่มีลักษณะดีที่สุดเช่นเดียวกัน
ดังนั้นจึงจัดให้มีการประกวดสุนัขเพื่อคัดเลือกหาสุนัขที่มีลักษณะดีถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์มากที่สุด สำหรับใช้เป็นพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์สืบต่อไป และมีการกำหนดคุณลักษณะที่ถูกต้องของ “ เยอรมันเช็พเพอด ” ไว้เป็นมาตรฐานของสายพันธุ์ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การตัดสินคัดเลือกหาสุนัขที่มีลักษณะดีที่สุดในการประกวด
นอกเหนือจากรูปร่างลักษณะทางโครงสร้างร่างกายที่สวยงามและถูกต้องแล้ว ยังต้องมีการทดสอบความอดทน (AD) และความสามารถในการทำงานพื้นฐาน คือการใช้จมูก ( Tracking ) สำคัญที่สุดที่จะทำให้ได้สายพันธุ์ที่ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของ “ เยอรมันเช็พเพอด ” คือการทดสอบความมีวินัยเชื่อฟังคำสั่ง ( Obedience ), จิตประสาทและความกล้าหาญในการต่อสู้ ( Protection ) จึงได้มีการกำหนดกฎระเบียบการทดสอบสุนัขอารักขา ( Schutzhund ) เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การคัดเลือกสุนัขที่มีความสามารถในการทำงานและความมั่นคงของจิตประสาท สำหรับใช้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ต่อไป
จะเห็นได้ว่า สุนัขพันธุ์ “ เยอรมันเช็พเพอด ” มีกระบวนการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่องเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักดั้งเดิมตลอดมา จึงได้เกิด “ เยอมันเช็พเพอดที่แท้จริง ” ขึ้นในโลกของสุนัข ที่แม้มีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ แต่ก็ไม่มีเลยสักสายพันธุ์เดียว ที่จะมีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์แบบ และสามารถใช้งานได้อเนกประสงค์จริงๆ เช่นสุนัขพันธุ์นี้
เยอรมันเช็พเพอดยุคใหม่
ยุคต่อมาหลังจากเยอรมันเช็พเพอดได้พัฒนาสายพันธุ์จนมีลักษณะเฉพาะที่แน่นอนตามมาตรฐานสายพันธุ์ ทั้งลักษณะภายนอกคือโครงสร้างร่างกายโดยรวม และลักษณะภายในคือความมั่นคงทางอารมณ์ จิตประสาท, แรงขับหรือความกระตือรือร้นตื่นตัวที่จะทำงานมีความเฉลียวฉลาด ความสามารถในการเรียนรู้สูง ทำให้สามารถนำมาฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งและอยู่ในระเบียบวินัยได้ดี จึงมีการนำมาฝึกใช้งานอื่นๆ อีกหลายอย่างดังกล่าวมาแล้วข้างต้น
สุนัขพันธุ์นี้เริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการแบ่งคุณสมบัติเฉพาะเป็นกลุ่มๆ ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการนำไปเลี้ยงเพื่ออะไร
คุณสมบัติของเยอรมันเช็พเพอด
เยอรมันเช็พเพอด มีคุณสมบัติเฉพาะที่แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ
1. คุณสมบัติ เพื่อการประกวด หรือที่มักจะเห็นในการโฆษณาโดยทั่วไปว่า “ คุณสมบัติ ระดับประกวด ” ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องหมายถึง “ ราคา ระดับประกวด ” ด้วยเช่นกัน สุนัขในกลุ่มนี้ จะมีการพิถีพิถัน คัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ เป็นพิเศษ ให้ได้ลักษณะทางโครงสร้างร่างกายและสีสัน ที่สวยงามและถูกต้องตามมาตรฐานประจำพันธุ์ มากที่สุด ลูกสุนัขแต่ละครอก จะได้รับการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นโดย ขจัดลักษณะด้อยหรือข้อเสียทางร่างกายที่เห็นในรุ่นพ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย ให้ลดไปเรื่อยๆ และส่งเสริมลักษณะเด่น ให้ดีขึ้นจนถูกต้องตามาตรฐานประจำพันธุ์ให้มากที่สุด บรรดาบรีดเดอร์หรือผู้ผสมพันธุ์สุนัขในกลุ่มนี้ ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องมาตรฐานของสายพันธุ์เป็นอย่างดี มีสายตาที่แม่นยำเฉียบคม สามารถสังเกตลักษณะเด่นหรือด้อยในสุนัขที่ผ่านตาได้ทันทีที่เห็น ดังนั้นในการผสมพันธุ์แต่ละครั้งบรีดเดอร์เหล่านี้ จะต้องคัดสรรพ่อ-แม่พันธุ์อย่างละเอียดละออเพื่อจุดประสงค์ให้ได้ลูกสุนัขที่มีลักษณะสวยงามถึงขั้น “ คุณภาพระดับประกวด ” อย่างแท้จริง
การเน้นพัฒนา โครงสร้างร่างกายให้ได้สมบูรณ์แบบที่สุด และความต้องการลักษณะเด่นของพ่อพันธุ์หลักมากที่สุด อาจทำให้มีบรรพบุรุษร่วม (Inzutch) หลายตัว ซึ่งก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในทางกลับกัน คือการถ่ายทอดลักษณะด้อยที่แฝงอยู่ ดังนั้นจะสังเกตได้ว่า สุนัขในกลุ่มนี้ มักมีปัญหาด้านสุขภาพหลากหลายมากกว่ากลุ่มอื่น แม้แต่ลักษณะเด่นที่ได้รับการพัฒนาให้ดีมาก ( เกินไป ) ก็มีผลให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน เช่น การพัฒนาให้มีมุมขามาก ( เกินไป ) , หรือเส้นหลังที่โค้งลาด, หรืออกที่กว้างหรือลึกมากๆ เป็นต้น
*นอกจากนี้ ยังอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพทางจิตใจเช่นกัน หากบรีดเดอร์มองข้ามลักษณะด้อยด้านจิตประสาทของพ่อ-หรือแม่พันธุ์ โดยมุ่งเน้นพัฒนาทางโครงสร้างร่างกายเพียงด้านเดียว ดังที่พบเห็นกันบ่อยๆว่า เยอรมันเช็พเพอดในสนามประกวดบางตัวมีโครงสร้างสวยมาก แต่ไม่ยอมให้กรรมการเปิดปากเพื่อตรวจฟัน บางครั้งแสดงอาการกลัว บางครั้งก้าวร้าวจะกัดกรรมการ หรือบางตัวแสดงอาการก้าวร้าวสุนัขตัวอื่นๆ ฯลฯ
2. คุณสมบัติ เพื่อการใช้งาน สุนัขในกลุ่มนี้ แบ่งย่อยได้อีกเป็น
- สุนัขสำหรับใช้ทำงานจริง เช่น สุนัขตำรวจ, สุนัขสงคราม, สุนัขนำทาง, สุนัขดมกลิ่น ฯลฯ
- สุนัขสำหรับฝึกเพื่อแข่งขันกีฬา เช่น กีฬาชุทซ์ฮุนด์, กีฬา Ring Sport, กีฬา Agility หรือกีฬา Flyball เป็นต้น
สุนัขในกลุ่มนี้ อาจมีราคาสูงเท่าหรือสูงกว่าสุนัข “ คุณภาพ ระดับประกวด ” ในกรณีเป็นสุนัข “ คุณภาพ ระดับลงแข่งขัน ” แม้อาจจะมีโครงสร้างร่างกายและสีสันไม่ถึงขั้นสวยงามน่าดูเช่นสุนัขประกวด แต่เนื่องจากได้รับการพัฒนาในทิศทางที่แตกต่าง….เพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่าง ดังนั้น สุนัขกลุ่มนี้ จะมีคุณสมบัติเด่นเพื่อการใช้งานและมีความสามารถสูงที่จะรับการฝึก ( Trainability ) ได้ทุกรูปแบบตามวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ทำงานด้านต่างๆ นอกจากนี้การที่มุ่งเน้นพัฒนาเพื่อการใช้งาน สุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งเท่าๆ กับคุณสมบัติอื่นๆ สุนัขต้องสมบูรณ์แข็งแรงเต็มที่ในทุกๆ ด้านเท่านั้น จึงจะเป็นสุนัขใช้งานที่ดีได้
สุนัขกลุ่มใช้งานที่เรียกว่า สุนัขสำหรับฝึกเพื่อแข่งขันกีฬา ( Sport Dog ) โดยเฉพาะกีฬาชุทซ์ฮุนด์ หรือ Ring Sport ( ยังไม่มีในเมืองไทย ) จะถูกพัฒนาโดยเน้นให้มี แรงขับ (Drive) สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงในที่จำกัดให้อยู่ตามลำพัง ซึ่งจะทำให้แรงขับที่สูงเต็มที่นี้ พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงและทรงพลังมือปล่อยออกมาลงสนามฝึก ( หรือสนามแข่งขัน ) ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงครั้งละ 15-30 นาที ซึ่งทำให้แทบจะไม่สามารถฝึกได้ หากไม่มีอุปกรณ์ควบคุม เช่น โซ่หนาม ( Prong/Pinchcollar ) หรือปลอกคอไฟฟ้า ( Electronic Collar ) ช่วยบังคับในการฝึก
*อย่างไรก็ตาม สุนัขในกลุ่มนี้ ได้พัฒนาให้มีจิตประสาทที่มั่นคงมาก, จึงสามารถเป็นมิตรกับเด็กๆ และคนทั่วๆ ไปได้ดี แม้แต่กับสัตว์อื่น เช่น แมว, ไก่, กระต่าย หรือแม้แต่ม้า
3. คุณสมบัติ เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง สุนัขที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ มักจะไม่สวยงามมากถึงระดับพอที่จะลงสนามประกวด และมีแรงขับไม่มากพอที่จะฝึกเพื่อใช้แข่งขันกีฬา หรือทำงานได้ ดังนั้นจะมีราคาย่อมเยากว่า 2 กลุ่มแรกมาก ซึ่งอาจจะเหมาะสมสำหรับ “ มือใหม่หัดเลี้ยง ” มากกว่า 2 กลุ่มแรก เพราะสุนัขในกลุ่มนี้แม้จะเป็นพันธุ์แท้ แต่บรีดเดอร์หรือผู้ผสมพันธุ์ อาจไม่ได้พิถีพิถันคัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ในการผสมพันธุ์ ให้ได้ลูกสุนัขที่ดีเลิศ เพื่อวัตถุประสงค์ใดเป็นพิเศษ ( ในต่างประเทศจะมีคำเรียกบรีดเดอร์ประเภทนี้ว่า BYB หรือ Backyard breeder ) โดยอาจเป็นสุนัขเลี้ยงตามบ้าน ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบรูณ์ และมีความพร้อม เมื่อผสมพันธุ์กันออกมา ได้ลูกสุนัขที่ไม่สวยงามมากนัก และไม่มีแรงขับสูงมากนัก แต่สามารถนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านได้ดี และก็มีไม่น้อยที่โชคดีเติบโตขึ้นมามีลักษณะที่สวยงามขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนใหญ่แล้วสุนัขในกลุ่มนี้มักมีโอกาสได้เป็น “ เพื่อนคู่ใจ ” ของคุณได้ดีกว่า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุณและครอบครัวได้มากกว่า เพราะไม่ต้องคอยเก็บตัว เพื่อซ้อมลงสนามประกวด หรือสนามแข่ง ซึ่งในที่สุดแล้ว เขาก็จะสามารถเป็นสุนัขอารักขาและสุนัขเฝ้าบ้านให้คุณได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคุณและสุนัขของคุณได้จนถึงระดับหนึ่ง
หากคุณสามารถตอบคำถามได้ว่า คุณต้องการเลี้ยงเยอรมันเช็พเพอดเพื่ออะไร คุณก็สามารถเลือกหาเยอรมันเช็พเพอดที่มีคุณสมบัติตามที่คุณต้องการได้เหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์
จิตประสาทที่มั่นคง……หัวใจของเยอรมันเช็พเพอด
ไม่ว่าเยอรมันเช็พเพอดของคุณจะมีคุณสมบัติเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดเท่ากับเป็นหัวใจของสายพันธุ์ก็ว่าได้ คือ อารมณ์ ( Temperament ) หรือที่ในกลุ่มผู้ฝึกสุนัขเรียกว่า “ จิตประสาท ” นั่นเอง ถ้าเยอรมันเช็พเพอด ( หรือสุนัขพันธุ์ใดก็ตาม, หรือแม้แต่มนุษย์คนใดก็ตาม ) มีอารมณ์ หรือจิตประสาทแปรปรวนง่าย ไม่มั่นคง ถ้าเป็นคน ชาวบ้านคงเรียกว่า เป็นคน “ คุ้มดีคุ้มร้าย ” จัดอยู่ในประเภท “ บุคคลอันตราย ” เพราะคาดเดาพฤติกรรมไม่ได้ สำหรับสุนัข, โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ และมีพละกำลังมาก ย่อมจัดเป็น “ สุนัขอันตราย ” ได้เช่นกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งแรก ในการพิจารณาคุณสมบัติของสุนัข ก็คือการทดสอบจิตประสาท ( Temperament Test )
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนว่า……จิตประสาท……..คืออะไรกันแน่ ?
เมื่อพูดถึงคำว่า “ จิตประสาท ” ในที่นี้ ความหมายโดยรวม คือ แรงขับ ( Drive ), ขีดความอดทน ( Thresholds ), นิสัยโดยสันดานและสัญชาติญาณ ( Traits and instinct ) ที่ฝังลึกสืบทอดมาตามสายเลือด
เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ จิตประสาท ” เป็นลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมอย่างแน่นอน ไม่สามารถฝึกฝนหรือพัฒนาให้เกิดขึ้นได้ พฤติกรรมบางอย่างของสุนัขอาจปรับเปลี่ยนไปได้โดยการฝึก แต่จิตประสาทของมัน ไม่มีวันเปลี่ยนได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น สุนัขที่มีแรงขับสูงมากๆ, ตื่นตัว, เคลื่อนไหวรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา จะไม่มีวันถูกฝึก ให้กลายเป็นสุนัขเรียบร้อยประเภทค่อยๆ ลุกค่อยๆ เดิน ( หรือเอาแต่นอนทั้งวัน ) ได้เลย......แต่เราสามารถฝึกให้สุนัขประเภทนี้ควบคุมตัวเอง ให้หมอบหรือนั่งอยู่นิ่งๆ ได้เป็นเวลานานๆ ตามคำสั่ง
มีบางคนเคยพูดทำนองว่า สุนัขจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับว่า “ มันถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร ” นั่นก็อาจจะจริงในด้านพฤติกรรมการแสดงออก แต่สิ่งที่ฝังลึกอยู่ภายในจิตใจของมัน ไม่มีวันเปลี่ยนได้
การเลี้ยงดูและอบรมฝึกฝนนำเข้าสังคมมาแต่ยังเล็ก สามารถปรับเปลี่ยนนิสัยบางอย่าง ให้แสดงออกได้ตามแบบที่เราต้องการ แต่ทั้งนี้นิสัยสันดานดั้งเดิมจะยังคงอยู่ต่อไป ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ แรงขับในการเล่นลูกบอล ( Ball-drive ) เพราะเราใช้ลูกบอลเป็นอุปกรณ์หลักในการฝึก เพื่อนำสุนัขไปใช้ในการทำงานหลายแบบ สุนัขบางตัวก็ไม่สนใจเล่นลูกบอลเลย ถ้าสุนัขชอบเล่นวิ่งไล่ลูกบอล ผู้ฝึกที่เก่งๆจะหาวิธีเล่นให้สนุกสนานเร้าใจทำให้สุนัขชอบเล่นบอลมากขึ้นจนถึงขีดสูงสุด ( ภาษาคนฝึกสุนัขเรียกว่า “ บ้าบอลล์ ” ) แต่แรงขับ ที่จะชอบเล่นบอล ( Ball-drive ) นี้ มีในตัวสุนัขอยู่แล้ว ไม่มีครูฝึกคนไหน ที่สามารถ สร้างแรงขับให้กับสุนัขตัวไหนได้
ผู้ที่รักสุนัขพันธุ์ “ เยอรมันเช็พเพอด ” ด้วยหัวใจอย่างแท้จริง ย่อมมีความตั้งใจที่จะผลิตแต่สุนัขเยอรมันเช็พเพอดระดับคุณภาพ ในทุกๆ ด้าน จริงๆ เช่นกัน ความเข้าใจในเรื่องของจิตประสาทนี้จึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ในการวางแผนการผสมพันธุ์ที่เหมาะสม เพื่อคงไว้ซึ่งคุณสมบัติของสุนัขใช้งานที่ดีไว้ให้มากที่สุด แทนที่จะผลิตลูกสุนัขโดยไม่มีการวางแผนออกมามากมาย จนล้นเกินความต้องการ และเติบโตขึ้นมาเป็นสุนัขที่สร้างปัญหาให้แก่สังคมต่อไปในอนาคต ดังจะเห็นว่ามีสุนัขที่ไม่เป็นที่ต้องการจำนวนมากมาย ในสถานสงเคราะห์สัตว์ทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ต้องถูกทำลาย หากไม่มีผู้รับไปเลี้ยง หรือมีปัญหาทางพฤติกรรมที่ถูกประเมินว่าเป็นสุนัขอันตราย และต้องถูกทำลายไปในที่สุด
สุนัขที่เกิดมาจากการผสมพันธุ์ด้วยความพิถีพิถัน คัดเลือกสายพันธุ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างจริงจังสืบทอดกันมานับร้อยปีดังเช่น “ เยอรมันเช็พเพอด ” ย่อมต้องมีคุณสมบัติด้านจิตประสาทมั่นคงฝังลึกอยู่ในสายเลือดมายาวนานเช่นกัน การวางแผนการผสมพันธุ์ด้วยความระมัดระวังโดยการคัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ ที่ผ่านการทดสอบจิตประสาทมาแล้ว ว่าอยู่ในระดับที่ดีเหมาะสมที่จะใช้ทำพันธุ์ด้วยการผ่านการทดสอบ **BH และ SchH ก่อน จึงจะใช้เป็นพ่อ-แม่พันธุ์ได้ ซึ่งเป็นกฎของทางสมาคมเยอรมันเช็พเพอดแห่งโลกที่บังคับใช้สำหรับสมาชิกสมาคมเยอรมันเช็พเพอดในทุกประเทศทั่วโลก จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะนำไปใช้ทำงานในด้านต่างๆ ได้หลากหลาย จนเรียกได้ว่า เป็นสุนัขอเนกประสงค์ตลอดกาล ในบรรดาสุนัขใช้งานที่มีอยู่ในโลกทั้งหมด
โดย.... ไทยเช็พเพอด
** การทดสอบ BH เป็นขั้นตอนหนึ่ง ในการดำเนินการเพื่อตรวจสอบคุณภาพทางจิตใจ และความมั่นคงทางอารมณ์ของสุนัข เป็นการทดสอบขั้นพื้นฐาน ก่อนจะนำสุนัขไปฝึกเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ต่อไป ดูรายละเอียดของการทดสอบ BH ในเรื่อง BH คืออะไร จากวารสารเล่มนี้ http://gsd.in.th/th/book/bh-คืออะไร............. ผู้เขียน
แหล่งที่มาข้อมูล : วารสารเช็พเพอด ฉบับที่ 49 ( ธันวาคม 2545 )
อ่านบทความใน Facebook ได้ที่ http://www.facebook.com/notes/สมาคมผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอดแห่งประเทศไทย/กระเทาะเปลือก-เยอรมันเช็พเพอด-ตอนที่-1/510256272345140