ต้นกำเนิดแห่งสายพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด

ต้นกำเนิดแห่งสายพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด
The Origin of the German Shepherd Dogs.

   จากการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติให้ผลที่สอดคล้องกันว่า สุนัขนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดแรกของมนุษย์ที่สืบเชื้อสายขยายเผ่าพันธุ์มาจากสุนัขป่าหลากหลายสายพันธุ์ในส่วนต่าง ๆ ของโลก และได้อยู่เป็นสัตว์คู่บ้านของคนมานานถึงกว่า 12,000 ปีมาแล้ว สุนัขตัวแรกเข้ามาเกี่ยวข้องกับมนุษย์ได้อย่างไรนั้น ยังเป็นปริศนาลึกลับอยู่ แต่ก็เป็นที่ยอมรับว่าสุนัขได้ทำประโยชน์ให้แก่มนุษย์อย่างมากมายมหาศาลในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มนุษย์เริ่มมีการเลี้ยงฝูงปศุสัตว์เพื่อยังชีพ จึงมีการปรับปรุงสายพันธุ์ของสุนัขให้มีคุณสมบัติเฉพาะในการช่วยดูแลฝูงปศุสัตว์

   สุนัขในยุคต่อมา เริ่มมีพัฒนาการในคุณสมบัติเฉพาะด้านให้เหมาะสมกับการใช้งานหลายประเภทยิ่งขึ้น สำหรับสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอดนี้ โดยทั่วไปก็เป็นที่รู้จักกันสืบเชื้อสายมาจากการผสมข้ามพันธุ์กันระหว่างสุนัขที่ใช้ดูแลปศุสัตว์ 2 สายพันธุ์ จากภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศเยอรมนี คือสายพันธุ์ Thuringian และ Wuerttemberg อย่างไรก็ตามยังมีการกล่าวถึงสุนัขสายอื่นอีกเช่น สุนัขสาย Saxony ซึ่งก็อยู่ในรัฐ Thuringian และสุนัขสาย Swabian ซึ่งส่วนหนึ่งของแคว้น Duchy Swabia โบราณนี้ ต่อมาได้กลายเป็นอาณาจักร Wuerttem’berg และได้รวมตัวกันเป็นสหพันธ์แห่ง Baden-Wuerttemberg  ในปัจจุบัน


แหล่งที่มารูปภาพ : http://stockdogsavvy.wordpress.com/2010/01/08/german-shepherd-dog/

การเริ่มต้นก่อตั้งกลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด ( The founding  Club )

   สโมสรชื่อ Vereinfuer Deutsche Schaeferhunde ( SV ) เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ 22 เมษายน 1899 โดย Max von Stephanitz เป็นประธานคนแรก มี Arthur Meyer เป็นรองประธาน, เลขาธิการ และนายทะเบียน, ต่อมา Arthur Meyer ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 1900 คงเหลือแต่ von Stephanitz เป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อตั้งสโมสรขึ้นใหม่ โดยมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งเป็นเจ้าของคอกปศุสัตว์ ( ฝูงแกะ ) 3 ท่าน นอกจากนี้ก็มี เจ้าของโรงแรม 2 ท่าน, สถาปนิก, นักกฎหมายเทศมนตรี และยังมีชาวต่างชาติ จากประเทศออสเตรีย และสวิตเซอแลนด์มาร่วมด้วย


Max von Stephanitz ดำรงตำแหน่งประธานของ SV มาจนถึงปี 1935

   บางครั้งก็เป็นที่เชื่อกันว่า การผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง Thuringian และ Wuerttemberg นั้น เกิดขึ้นภายหลังได้มีการก่อตั้ง SV แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะตามสมุดบันทึกการผสมพันธุ์ฉบับดั้งเดิมกล่าวถึงว่ามีการผสมข้ามสายพันธุ์ดังกล่าวมาก่อนปี 1899, เช็พเพอดตัวดังที่สุดในยุคนั้น คือ Hektor von Schwaben SZ 13 ผู้ชนะเลิศตำแหน่ง Sieger ประจำปี 1900 และ 1901, 2 ปี ซ้อน ก็เกิดเมื่อ 12 กรกฎาคม 1898 ( 2 ปี ก่อนการก่อตั้ง SV )


Hektor von Schwaben SZ 13

ความแตกต่างในสายพันธุ์ (Variation in Type)

   จากสมุดบันทึกการผสมพันธุ์เล่มดังกล่าว ได้อธิบายถึงลักษณะแตกต่างของสายพันธุ์สุนัขที่ SV ได้จดทะเบียนไว้ ซึ่งรวมถึงสุนัขขนเรียบ ( Smooth-Coated ), ขนยาว ( Long-Coated ), ขนหยาบ ( Rough-Coated ), ขนหยิก ( Curly-Coated ), ขนแข็ง ( Wire-Haired Coated) และแม้แต่พันธุ์ที่เรียกกันว่า “ altdeutsche ” หรือขนปุกปุย แบบ Old English Sheepdog ซึ่งโดยทั่วไปจะสีดำปลอด, น้ำตาล หรือเทา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ที่มีลักษณะขนเรียบ ( Smooth Coated ) จากพันธุ์ Thuringian และ Wuerttemberg, ซึ่งโดยทั่วไปจะมีสีเทาหรือเทาเหลือง

สุนัขใช้งาน ( Working Dogs )

   แรกที่เดียว สุนัขเยอรมันเช็พเพอดในสายตาของ von Stephanitz ( และคนทั่วไปในสมัยนั้น ) ถือเป็นสุนัขพิเศษสำหรับใช้ทำงานเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีกฎเกณฑ์การฝึก และทดสอบคุณสมบัติของสุนัขพันธุ์นี้โดยเฉพาะ จนเมื่อต้นปี 1920 ทาง SV ได้กำหนดมาตรฐานการทดสอบไว้ 4 ประเภทคือ

  1. HGH = Herdengebrauchshund หรือ สุนัขต้อนฝูงปศุสัตว์   
  2. KRH = Kriegshund หรือ สุนัขสงคราม
  3. SH = Sanitaetshund หรือ สุนัขหน่วยพยาบาล
  4. PH = Polizeihund หรือ สุนัขตำรวจ

   โดยความเป็นจริงแล้วการทดสอบมาตรฐาน HGH ส่วนใหญ่ทำการตัดสินรับรองผลโดยบรรดาสมาคมฯ และกลุ่มผู้เลี้ยงแกะหรือปศุสัตว์ต่าง ๆ มากกว่าโดย SV แม้ว่าในปัจจุบัน SV ได้มีการจัดประกวดสุนัขต้อนแกะโดยใช้มาตรฐาน HGH ในการตัดสินแล้วก็ตาม ส่วนคุณสมบัติของสุนัขตำรวจหรือ PH ปัจจุบันคือ SchH3 ซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นมาตรฐานที่ใช้ทดสอบความสามารถสำหรับสุนัขอารักขาโดยทั่วไป มาตรฐาน PH ดังกล่าวเป็นมาตรฐานในการฝึกที่เป็นที่รู้จักที่คุ้นเคยกันมากที่สุด แต่ก็มีสุนัขน้อยตัวนักที่จะมีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสมสำหรับงานตำรวจจริง ๆ ส่วน KrH ( สุนัขสงคราม ) และ SH ( สุนัขพยาบาล ) นั้นสามารถฝึกได้อย่างดีจนเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมใช้กัน Max von Stephanitz กล่าวถึงลักษณะของสุนัขสาย Thuringian ไว้ว่ามักจะมีขนาดเล็กแกร่ง ขนแข็งหยาบ ลักษณะพวงหางไม่ดี แต่ก็มักมีหูที่ตั้งชันดีและมีขนสีเทาแบบสุนัขป่า กล่าวกันว่าสุนัขสายนี้ จะทำงานอย่างขยันขันแข็งกระฉับกระเฉงกระปรี้กระเปร่ามาก แต่หากถูกทอดทิ้งขังไว้อยู่แต่ในคอก ก็อาจจะกลายเป็นสุนัขที่ดุร้ายก้าวร้าวจนเกือบถึงขั้นควบคุมไม่ได้ Stephanitz เห็นว่าสุนัขสาย Wuerttemberg  ส่วนมากมีขนาดใหญ่ แต่มีความคล่องตัว, วิ่งเร็วและมีลักษณะของหางที่ดี แต่หูไม่ค่อยตั้งชัน สุนัขสาย Wuerttemberg นี้ โดยทั่วไปจะมีจิตประสาทมั่นคงและสุขุม

ต้นกำเนิดของสายพันธุ์ ( Original Bloodlines )

   Ferdinand Kautsky นักประวัติศาสตร์การเพาะพันธุ์ได้บันทึกการสืบประวัติสายพันธุ์สุนัขตัวสำคัญ ๆ ในช่วงเริ่มต้นการผสมพันธุ์จากแหล่งต้นสายพันธุ์หลัก 5 แหล่ง ดังนี้ :-

กรุ๊ป 1 สุนัขจากคอกของ Herr Wachsmuth เมือง Hanau ใกล้ Frankfurt โดยเฉพาะคู่พ่อแม่พันธุ์จากสาย Thuringian ชื่อ Roland และ Courage ซึ่งเกิดจากการขยายพันธุ์ของสุนัขต้อนแกะ แต่ไม่รู้ชื่อ พ่อ, แม่, ปู่, ย่า, ตา, ทวด

กรุ๊ป สุนัขจากคอกของ Herr Sparwasser ใน Frankfurt เป็นสุนัขสาย Thuringian เป็นส่วนใหญ่สุนัขตัวเด่น ๆ ที่สำคัญคือสุนัขเพศเมีย ชื่อ Lene ( Sparwasser ) SZ 156 และลูก ๆ ของมันคือพี่น้องครอก Horand von Grafrath SZ 1 และ Luchs ( Sparwasser ) SZ 155


V Horand von Grafrath (Hektor Linksrhein)


V Luchs (Sparwasser)

กรุ๊ป สุนัขจากคอกของ Herr Fiselen ( ซึ่งมีชื่อคอกว่า Von der Krone ) ใน Heidenheim เทือกเขา Swabian Alps แห่งแคว้น Wuerttemberg เขาเป็นผู้หนึ่งในกลุ่มสมาชิกก่อตั้ง SV. พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์สาย Thuringian ของเขา ชื่อ Max von der Krone SZ 160 และ Sali von der Krone ( ไม่ได้จดทะเบียน ) นับเป็นคู่สุนัขที่มีอิทธิพลอย่างมากในสายพันธุ์

กรุ๊ป 4 สุนัขใช้งาน ( ต้อนแกะ ) สาย Thuringian จากคอก Klostermanfeld และ Birken แสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะของสุนัขสายนี้อย่างชัดเจน เจ้าของคอกทั้ง 2 คือ Goymann และ Arnoldt  ซึ่งทั้งคู่เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อตั้ง SV. เช่นกัน

กรุ๊ป 5 สุนัขใช้งาน ( ต้อนแกะ ) สาย Wuerttemberg ตัวสำคัญ ๆ ในกลุ่มนี้ มีสุนัขเพศเมีย ชื่อ Fides vom Neckarursprung SZ 19 HGH, Moers Plieningen SZ 159 HGH, Madame von der Krone the Elder HGH ( ไม่ได้จดทะเบียน ) และเพศผู้ ชื่อ Carex Plieningen SZ 158 HGH รวมถึง Audifax von Grafrath SZ 368 HGH จากคอกปศุสัตว์ในเมือง Augsburg


Carex Plieningen


Audifax von Grafrath

บรรพบุรุษแห่งสายพันธุ์

   สุนัขตัวสำคัญที่มีอิทธิพลสูงสุดในยุคต้นก็คือ Horand von Grafrath SZ 1 ผู้ได้รับฉายาว่าเป็นต้นแบบ ( Stammvater ) ของสายพันธุ์ นั่นเอง มันเกิดมาจากพ่อแม่พันธุ์สาย Thuringian แท้ ในคอก Sparwasser เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1895 เจ้าของคนแรกตั้งชื่อมันว่า Hektor Linksrhein ต่อมาได้มาอยู่คอก von der Krone ซึ่งภายหลังขายต่อให้กับ von Stephanitz ในราคา 222 มาร์ค เมื่อวันที่ 15 มกราคม 1898 และได้จดทะเบียนเป็นอันดับแรกในสมุดทะเบียนของ SV ว่า “ Hektor Linksrhein ในนาม Horand von Grafrath ( SZ ) 1 ” สมุดจดทะเบียนผสมพันธุ์ในยุคแรก อ้างถึง Horand ตามนี้ทุกครั้งต่อมาในยุคหลังจึงใช้ว่า “Horand von Grafrath ( SZ ) 1”

   Von Stephanitz ถือว่า Horand นั้นคือ สุดยอดของสุนัขสายพันธุ์ใหม่ ที่เขามุ่งมั่นหวังให้เป็นเช่นนั้น จากคุณลักษณะของสุนัขใช้งานที่ตื่นตัวแต่ มั่นคงสุขุม มีความสามารถ ( และความเต็มใจ ) ที่จะทำตามคำสั่งของเจ้าของเสมอ Horand เริ่มสร้างชื่อเสียงโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการให้ลูกที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมเหมือนพ่อ ( คือตัวมันเอง ) และจากการที่สามารถรับประกันคุณภาพของบรรดาลูก ๆ ของมัน ในคุณลักษณะเด่นที่พึงมีในสายพันธุ์ ของมันเองทุกประการ


Hektor Linksrhein ในนาม Horand von Grafrath (SZ) 1

แหล่งที่มารูปภาพ : http://www.astraean.com/borderwars/2010/12/bracketts-formula-for-failure-1.html

   ชื่อเสียงเกียรติภูมิของ Horand แพร่หลายออกไปมากขึ้น จนมีการนำชื่อของมันไปเขียนกำกับไว้ในใบพันธุ์ประวัติของ Pollux ( ปู่ของ Horand ) ซึ่งความจริงไม่มีสิทธิจะทำเช่นนั้นผู้บันทึกสมุดทะเบียนในยุคแรกนี้ จึงเลี่ยงมาใช้คำว่า “ Horand bluetig ” ( สืบสายพันธุ์ Horand ) ซึ่งหมายถึงสุนัขที่มีสายเลือดของ Horand หรือพี่น้องร่วมครอก Luchs ( Sparwasser ) SZ 155 หรือกลุ่มสุนัขที่รู้กันว่าเป็นสายเลือดของ Pollux ซึ่งหมายความรวมถึงสายเลือดของ Kastor SZ 153 ( พ่อของ Horand ), Fritz von Sehwemingen SZ 20 ( ลูกของ Pollux ) และ Lucie von Starkenberg SZ 131 ด้วย

   Max von Stephanitz และ บรรดา ผู้ร่วมก่อตั้ง SV ยุคบุกเบิก เช่น Tobias Ott แห่งคอก vom Blasienberg, Dr Ferdinand Sachs แห่งคอก vom Hain ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญอย่างมาก ในคุณสมบัติเพื่อการใช้งานของสุนัขพันธุ์นี้ โดยเฉพาะข้อความที่ท่านได้ให้ไว้เป็นสัญญาณเตือนใจว่า “ การผสมพันธุ์สุนัขเยอรมันเช็พเพอด คือการผสมพันธุ์สุนัขใช้งานเท่านั้น ”


Baron von der Krone

   จากหนังสือเรื่อง Working Dogs โดย Humphrey and Warner ได้มีรายงานผลการวิจัย เกี่ยวกับการผสมในสายพันธุ์ที่ให้สุนัขที่ได้รางวัลมากมายทั้งในด้านสวยงามและด้านใช้งาน โดยแสดงถึงความมีอิทธิพลอย่างสูงของ Horand von Grafrath ที่สืบทอดผ่านทางลูกชายของมันคือ Hektor von Schwaben กับ Baron von der Krone SZ 162 และทางลูกสาวของมันคือ Nelly Eislingen SZ 11 ส่วน Luchs ( Sparwasser ) พี่น้องร่วมครอกของ Horand ก็ได้ถ่ายสายเลือดโดยตรงให้แก่ Siegfried von Jena-Paradies SZ 1339 KrH, PH, SH สุนัขใช้งานที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงโด่งดังมาก เนื่องจากได้ตำแหน่งชนะเลิศ Leistungssieger หรือ Performance Sieger ตัวแรกของโลกในปี 1906 ลูกของ Pollux คือ Fritz von Schwenningen ก็เป็นสุนัขที่มีอิทธิพลมากในสายเลือดสุนัขใช้งาน Carex และ Moers Plieningen รวมไปถึง Fides von Neckarursprung สุนัขในกลุ่มสายพันธุ์ Wuerttemberg ก็แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของพวกมันในการสืบทอดสายพันธุ์เช่นเดียวกัน


Siegfried von Jena-Paradies

อิทธิพลแห่งสายพันธุ์

   สุนัขที่มีทะเบียนพันธุ์ประวัติโดยทั่วไปนั้น จะต้องมีลักษณะที่ถูกต้องตามมาตรฐานสายพันธุ์ ซึ่งประกอบด้วยลักษณะโครงสร้าง, สีขน, และรูปร่างโดยรวม ดังนั้นสุนัขพ่อพันธุ์ที่ชนะการประกวดทั้งหลายย่อมมีอิทธิพลสูงในการพัฒนาสายพันธุ์ เพราะมันจะต้องถูกใช้ผสมพันธุ์มากครั้งกว่าสุนัขธรรมดา แต่ในสายพันธุ์ที่เจาะจงมุ่งมั่นเน้นมาแต่ต้นเพื่อการใช้งาน และต่อมาในภายหลังก็ประสบความสำเร็จสมความตั้งใจ ได้เป็นยอดสุนัขใช้งานชั้นนำของโลก เช่นเยอรมันเช็พเพอดนี้ ก็ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ที่บรรดาสุนัขเพศผู้ตัวเด่นดังทั้งหลายต้องถูกใช้เป็นพ่อพันธุ์ ด้วยจุดประสงค์คือลูกที่มีคุณสมบัติสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับตัวมันเอง

   มีการจัดทำผังการสืบสายพันธุ์ต่อเนื่องกันโดยตรงลงมาแบบง่าย ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนถึงอิทธิพลของ Horand von Grafrath ผ่านทางลูกเพศผู้ของมัน คือ Hektor von Sehwaben ( น่าสังเกตว่าไม่มีการกล่าวถึงอิทธิพลต่อลูกเพศเมียหรือการผสมในสายพันธุ์ กับ Horand เอง ) ผังนี้แสดงตำแหน่ง Sieger และ Siegerinnen ของเยอรมันทั้งสายประกวดและสายใช้งานตั้งแต่ปี 1899 - 1913 ด้วย ( ผังการสืบสายพันธ์ 1 )

   Horand ให้ลูกที่ได้ตำแหน่ง Sieger 2 ตัวคือ Hektor von Schwaben ปี 1900 และ 1901 และ Peter von Pritschen SZ 148 KrH ( สุนัขสงคราม ) ปี 1902 ตัวหลังนี้ไม่ค่อยได้ใช้เป็นพ่อพันธุ์มากนัก แต่เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นสุนัขใช้งานที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในยุคนั้น สำหรับ Hektor ซึ่งถือว่าเป็นลูกของ Horand ตัวที่ดีที่สุดนั้น ให้ลูกคือ Roland vom Park SZ 245 ได้ตำแหน่ง Sieger ในปี 1903 ต่อมาในรุ่นหลานมี Roland von Starkenburg SZ 1537 ( สีดำ ) ได้ตำแหน่ง Sieger ในปี 1906 และ 1907 ซึ่งสุนัขตัวนี้ต่อมามีอิทธิพลมากในการผสมพันธุ์เพื่อการประกวด


1902 SGR Peter von Pritschen


1903 SGR Roland vom Park


1906/07 SGR Roland von Starkenburg

   นอกจากนี้ยังมีพี่น้องร่วมครอกของ Roland vom Park อีก 2 ตัวคือ Beowulf SZ 10 และ Pilot SZ 111 ก็เป็นพ่อพันธุ์ที่สร้างชื่อเสียงให้ Hektor von Schwaben อย่างแท้จริง แม่ของทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นลูกสาวของ Horand ดังนั้นจึงเป็นการผสมในสาย ( In-breed ) ของต้นสายพันธุ์ ที่ชิดกันมาก สุนัขที่สืบสายจาก Pilot ได้ตำแหน่ง Sieger ในปี 1908, 1910 และ 1913, และแยกสายสืบต่อลงไปถึง Horst von Boll SZ 8306 PH ( สุนัขตำรวจ ) สำหรับ Beowulf ซึ่งให้ลูกคือ Beowulf vom Nahegau SZ 733 ได้ตำแหน่ง Sieger ปี 1905 นั้น ยังเป็นพ่อพันธุ์ที่ให้ลูกเพศเมียที่ดีเป็นพิเศษอีกด้วย โดยที่ลูกตัวหนึ่งคือแม่ของ Roland vom Starkenburg และยังให้ลูกเพศเมียที่ได้ตำแหน่ง Siegerrinen ตั้งแต่ปี 1902 จนถึง 1906 ด้วย รวมถึง Hella von Memmingen SZ 329 Siegerin 1902/3 และ Vefi von Niedersachsen SZ 339 Siegerin 1905 ซึ่งทั้ง 2 ตัวเป็นลูกของ Nelly Eislingen SZ 11 ลูกสาวของ Horand นั่นเอง ( มึน!!, ดูผังการสืบสายพันธุ์ 1 ประกอบด้วยเพื่อลดอาการมึน )


V Beowulf (Sonnenberg)


Pilot


V Horst von Boll


1905 SGR Beowulf vom Nahegau


1902/03 SGRN Hella von Memmingen


1905 SGRN Vefi von Niedersachsen

การผสมกันในสายเลือด ( Blood Fusion )

   สำคัญมากที่จะต้องทำความเข้าใจกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติการผสมพันธุ์ในยุคแรก ซึ่งจัดไว้เป็น 2 ระดับ คือ ขั้นแรก Hochzucht เป็นการรวมสายพันธุ์ชั้นหนึ่ง ( High-bred ) ที่เกี่ยวข้องกับ Horand von Grafrath โดยตรง และขั้นที่สอง Gebrauchszucht เป็นการผสมพันธุ์ โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้ได้สายพันธุ์สุนัขใช้งานที่ดีที่สุด ดังนั้นจึงมีการนำสายพันธุ์สุนัขที่ทำงานต้อนฝูงปศุสัตว์มาผสมร่วมด้วย ต่อมาภายหลังจึงมีการผสมกลุ่มสายพันธุ์ชั้นหนึ่ง ( High-bred ) กับกลุ่มใช้งาน เพื่อลดการผสมในสายเลือดให้น้อยลง ในเวลาเดียวกันก็ปรับแต่งคุณสมบัติของสุนัขใช้งานแท้ ๆ ให้กลายเป็นสุนัขสำหรับประกวดได้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการรวบรวมหล่อหลอมคุณลักษณะที่ดีของสุนัขหลาย ๆ สายพันธุ์ให้เป็นมาตรฐานของเยอรมันเช็พเพอดที่สมบูรณ์แบบ

   เป็นที่กล่าวหากันมากถึงการใช้สุนัขป่ามาเป็นพ่อแม่พันธุ์ต้นสาย ซึ่งก็ค่อนข้างจะเป็นความจริง โดยจากสมุดบันทึกแจ้งผสมพันธุ์ในยุคต้น ๆ นั้นจะเห็นว่ามีการผสมมากมายระหว่างสุนัขป่าและสุนัขบ้าน Von Stephanitz เองก็รู้จัก Woelfi vom Wolfsnest ( Zuleika-Saar ) SZ 65, เกิดเมื่อมกราคม 1899 ซึ่งมีหลานเพศเมียปรากฎชื่อในสมุดบันทึกแจ้งผสมพันธุ์ว่า Zamba-Saar ( She-Wolf ) โดยส่วนรวมแล้ว สุนัขที่สืบทอดโดยการผสมพันธุ์สุนัขป่าและสุนัขบ้าน ไม่มีอิทธิพลมากนักในสายพันธุ์นี้

   สุนัขประกวดตัวเด่นอย่าง Phylax ( von Eulau ) The Elder DHSB 8618 ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนไว้กับ SV ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Bursche ( von Wandsbeck ) ก็เป็นที่รู้กันดีว่ามีสายเลือดมาจากสุนัขป่าและก็ได้สืบทอดสายพันธุ์ต่อมาอีกไม่มากนักโดยทางลูกสาว Krone vom Park HGH ( สุนัขต้อนปศุสัตว์ ) SZ 349 ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยกย่องในวงการสุนัขใช้งาน

   Richard Strebel ได้ตีพิมพ์หนังสือ Die Deutschen Hunde ในปี 1905 เขาได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่า Phylax มีเชื้อสายของสุนัขป่า จนเป็นหัวข้อซึ่งเป็นที่ถกเถียงโต้แย้งกันอย่างกว้างขวางใหญ่โต

   แต่ Moers Plieningen HGH ( สุนัขต้อนปศุสัตว์ ) SZ 159 ซึ่งกล่าวกันว่ามีปู่ทวดเป็นสุนัขป่านั้น ได้กลายเป็นสุนัขที่มีอิทธิพลอย่างมากมายมหาศาลในสายพันธุ์นี้ โดยเหตุที่มันคือแม่ของ Hektor von Schwaben ผู้โด่งดังนั่นเอง Moers  มีสีดำ, แต่มีมาร์คกิ้ง ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะดูเหมือนว่ายีนที่ทำให้มันมีสีดำนั้น ( ผู้แต่ง เชื่อว่าเป็นต้นตระกูลของสีดำในสายพันธุ์นี้ ) จะเป็นยีนด้อย ( Recessive gene ) ในสายพันธุ์ของสุนัขป่า แทนที่จะเป็นยีนเด่น ( Dominant gene ) เช่นยีนที่ทำให้เกิดสีดำในสุนัขบ้านพันธุ์อื่นๆ ทั่วไป

การแพร่ขยายของเยอรมันเช็พเพอด ( THE SPREAD OF THE GSD )

   อังกฤษและสหรัฐอเมริกา ได้สั่งนำเข้าสุนัขพันธุ์นี้ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก และไม่ได้มีการจดทะเบียนเป็นพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด ปรากฏชื่อเพียงประเภท “ สุนัขทั่วไป ” หรือ “ สุนัขเลี้ยงแกะจากต่างประเทศ ” จนกระทั่งต่อมาเมื่อพันธุ์นี้เป็นที่นิยมแพร่หลายในทั้ง 2 ประเทศ สหรัฐอเมริกาก็ได้ก่อตั้งสโมสรเยอรมันเช็พเพอดในปี 1913 และ ในอังกฤษมีสโมสรแห่งแรกในปี 1919 ส่วนในทวีปยุโรป เยอรมันเช็พเพอดได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็วตามแนวชายแดนเยอรมนี และบรรดาสโมสรเยอรมันเช็พเพอดก็เริ่มเกิดขึ้นในหลายประเทศ ออสเตรียและสวิตเซอแลนด์มีสโมสรเยอรมันเช็พเพอดตั้งแต่ราวช่วงก่อนเปลี่ยนศตวรรษ, ต่อมาฝรั่งเศสก่อตั้งสโมสรขึ้นในปี 1910,  เบลเยี่ยมและฮอลแลนด์ในปี 1912 บรรดาประเทศต่าง ๆ เหล่านี้เริ่มต้นด้วยการสั่งนำเข้าสายพันธุ์ชั้นหนึ่ง ( High-bred ) จากเยอรมัน ส่วนใหญ่คือเชื้อสายของแชมป์เปี้ยน หรือ Sieger ทั้งหลาย ซึ่งก็เป็นสุนัขที่จดทะเบียนโดย SV ทั้งสิ้น

   สวิตเซอแลนด์ดูจะมีแนวทางเป็นของตัวเอง แต่ประเทศอื่น ๆ ในยุโรปประสานงานกันอย่างใกล้ชิดกับทาง SV, ออสเตรียมีสุนัขที่ได้ตำแหน่ง Sieger ตัวแรกในปี 1906 คือ Roland von Starkenburg SZ 1537, ต่อมาในปี 1914 คือ Wotan vom Emstal SZ 6813 PH ( สุนัขตำรวจ ) และ Ali von der Sudenburg SZ 11028 PH ( สุนัขตำรวจ ) ทั้ง 2 ตัว ได้ชื่อว่าเป็นพ่อพันธุ์ที่ให้ลูกที่มีลักษณะดีเลิศในปี 1912 Hermina Edelweiss SZ 12095 ก็ได้ตำแหน่ง Siegerin ซึ่งมันก็คือหลานของ Beowulf และหลานที่เกิดจากลูกสาวของ Roland von Starkenburg นั่นเอง


Wotan vom Emstal


Ali von der Sudenburg

   สำหรับเบลเยี่ยมก็มีสุนัขได้ตำแหน่ง Sieger ในปี 1913 คือ Apollo vom Huenenstein SZ 31621 PH ( สุนัขตำรวจ ), ต่อมายังได้ตำแหน่ง French Sieger ( แชมเปี้ยนแห่งฝรั่งเศส ) อีกด้วยในปี 1914, ส่วนตำแหน่ง Siegerin ก็มี Cora Dreiburg SZ 31229 PH ( สุนัขตำรวจ ) ซึ่งได้เป็น Siegerin ของออสเตรีย และฝรั่งเศส ในปีเดียวกันด้วย Cora เป็นลูกสาวของ Norbert vom Kohlwald SZ 9624 PH ( สุนัขตำรวจ ) ซึ่งแม่ของมันก็คือลูกสาวของ Roland vom Starkenburg ตัว Norbert เองได้เป็น German Sieger ในปี 1911 และ 1912, เป็น French Sieger ตัวแรก ( ปี 1912 ) และเป็น Dutch Sieger ตัวแรกเช่นกัน ( ในปี 1912 นั่นเอง ) น่าแปลกที่ฝรั่งเศสและฮอลแลนด์มีตำแหน่ง Siegerin ในปี 1911 ( ก่อนจะมีตำแหน่ง Sieger 1 ปี ) Sieger ตัวแรกของฝรั่งเศสคือ Herta vom Saartal SZ 10320 ซึ่งลูกสาวอีกหนึ่งตัวของ Roland, และ Siegerin ของปี 1912 ก็คือ Hella von der Kriminapolizei SZ 13748 ผู้โด่งดัง ซึ่งยังได้เป็น Siegerin ของเยอรมัน และ ฮอลแลนด์ ถึง 2 ปี ซ้อน ( 1911 และ 1912 ) อีกด้วย


Cora Dreiburg


1911/12 SGR Norbert vom Kohlwald


1911/12 SGRN Hella von der Kriminalpolizei

   ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 1 อุบัติขึ้นนั้น การประกวดสุนัขต่าง ๆ ถูกระงับไปชั่วคราว จนกระทั่งภาวะสงครามครั้งนั้นสงบลง เป็นที่กล่าวกัน ( แบบประชดกลาย ๆ ) ว่าสุนัขเยอรมันเช็พเพอดเพิ่งจะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาอังกฤษทั้งหลาย ก็ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นี้เอง ( น่าจะหมายถึงกลุ่มพันธมิตรยุโรปได้รู้จัก สุนัขทหารของฝ่ายนาซี หรืออะไรทำนองนั้น ) แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศฮอลแลนด์ก็ได้จัดงานประกวดมอบตำแหน่ง Sieger ขึ้นในปี 1915 และ 1916 จนได้! ( แม้ทาง SV จะงดการประกวด )

อ้างถึง : ข้อมูลจากหนังสือ THE ULTIMATE GERMAN SHEPHERD DOG
โดย : Sheila Rankin
เรียบเรียงข้อมูลโดย : วิภาดา

แหล่งที่มาข้อมูล : วารสารเช็พเพอด ฉบับที่ 46 (มิถุนายน 2544)